เรื่องราวของ Feuerhand (อ่านว่า ฟอยเย่อ-ฮันด์) เริ่มต้นขึ้นในปี 1870 ในเทือกเขา Saxon Ore ในเยอรมนีตะวันออก ซึ่งที่นั่น Hermann Nier ได้ทำงานในโรงงานเครื่องเงินขนาดเล็ก รวมถึงผลิตโคมไฟสำหรับคนงานเหมืองและตะเกียงในครัวเรือน เมื่อการอุตสาหกรรมขยายตัวมากขึ้น Harmann และพี่ชายของเขา Ernst ได้มาก่อตั้งโรงงานเพื่อผลิตตะเกียงน้ำมันก๊าดโดยเฉพาะ และครอบครัว Neir รุ่นหลังยังคงบริหารบริษัท Neir Feuerhand Company สืบต่อมาเรื่อย และในที่สุดก็กลายเป็นผู้ผลิตโคมไฟรายใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงทศวรรษที่ 1930
อย่างไรก็ตาม พิษของสงครามโลกครั้งที่สองก็ได้รบกวนการผลิตสินค้าเรื่อยมา จนถึงช่วงสิ้นสุดสงความโรงงานก็ต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดวัตถุดิบในการผลิต และกองทัพรัสเซียที่รุกคืบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากการแยกตัวของเยอรมนีในครั้งนั้น เครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิตทั้งหมดถูกยึดครองโดยสหภาพโซเวียต และครอบครัวของ Nier ก็ต้องอพยพลี้ภัยไปเยอรมนีตะวันตก
แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี ครอบครัวก็สามารถสร้างโรงงานขึ้นใหม่ทางทิศตะวันตกของประเทศ และเริ่มดำเนินการผลิตตะเกียงรุ่น Feuerhand Baby Special 276 อันโด่งดังได้อีกครั้ง ซึ่งนักสะสมโคม Feuerhand สามารถสังเกตได้อย่างง่ายดายว่าตัวไหนเป็นโคมไฟก่อนสงครามโลก เนื่องจากโคมทั้งหมดถูกประทับตราว่า "ผลิตในเยอรมนี" แต่โคมหลังสงครามทั้งหมดมีตราประทับ "W.Germany" สิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังจากจะมีการรวมประเทศกันอีกครั้ง
ตะเกียง รุ่น Baby Special 276
ตะเกียงยี่ห้อ Feuerhand ได้รับการจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 1934 และตะเกียงที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Feuerhand คือ “Feuerhand Baby Special 276” และนับตั้งแต่ปี 1989 การออกแบบและดีไซน์ที่โดดเด่นและการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ตะเกียงรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงม ทำให้ตะเกียงเจ้าพายุ รุ่น Baby Special 276 กลายเป็นตะเกียงเพียงรุ่นเดียวที่ Feuerhand ผลิต และเป็นตะเกียงขนาดเล็กเพียง 25.5 ซม. แต่ใช้งานได้ยาวนานมาก โดยใช้เวลาเผาไหม้ถึง 20 ชั่วโมงต่อน้ำมัน 1 ถัง และไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพมากกว่าเท่านั้น แต่ตะเกียงแบบ Cold Blast ยังให้แสงสว่างมากกว่าตะเกียงแบบอื่นๆ อีกด้วย
ตะเกียงแบบ Cold Blast, Hot Blast และ Dead Flame คืออะไร ต่างกันอย่างไร?
ในช่วงปีค.ศ. 1800 ได้มีการปรับปรุงตะเกียงแบบดั้งเดิมเพื่อสร้างโตะเกียงแบบ Hot Blast ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาตะเกียงแบบ Cold Blast ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน
- ตะเกียงแบบ Dead Flame แบบดั้งเดิมจะดึงอากาศบริสุทธิ์จากด้านล่างของเปลวไฟและขับไอเสียออกไปทางด้านบน
- ตะเกียงแบบ Hot Blast จะใช้วิธีดึงไอเสียมาผสมกับอากาศบริสุทธิ์และวนไปตามท่อด้านข้างที่เชื่อมสู่ฐานของตะเกียง ไอเสียและอากาศบริสุทธิ์จะถูกผสมกับไอน้ำมันก๊าดเพื่อสร้างส่วนผสมที่ทำให้เกิดส่วนผสมที่เหมาะสมสำหรับการเผาไหม้ และทำให้ตะเกียงมีการเผาไหม้ที่ดีขึ้นและให้แสงที่สว่างกว่าและให้แสงที่สะอาดตามากกว่า
- ตะเกียงแบบ Cold Blast ใช้การออกแบบที่ซับซ้อนกว่าเล็กน้อยเพื่อขับไอเสียออกจากด้านบนของตะเกียง ขณะเดียวกันก็จะดูดเฉพาะอากาศเย็นให้เข้ามาใหม่และดึงลงไปในท่อเพื่อผสมกันที่ฐานของตะเกียง ส่งผลให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพ และให้สว่างมากกว่าตะเกียงแบบ Hot Blast
เรียบเรียงโดย : UltraMiles
ที่มา : https://commongoodsco.com/blogs/camp-journal/feuerhand-the-story
https://www.feuerhand.de/en/geschichte/
http://www.bunk-online.de/DB_FeuerhandSturmlaternenLightInternational2000_db.pdf
https://www.vuurenrook.nl/en/general-information/history-of-feuerhand/
https://www.thelovelandlanterncollection.com/feuerhand/nr-175-superbaby-with-war-relic/